10 อันดับ จับ คู่ น้ำยาซักผ้า+ปรับผ้านุ่ม ปี 2023 แบบผง แบบน้ำ และเจลบอล

จับ คู่ น้ำยาซักผ้า+ปรับผ้านุ่ม ขั้นตอนซักผ้าปกติแล้ว เรามักจะซักด้วยผงซักฟอกและตามด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่ม ซึ่งช่วยเพิ่มกลิ่นหอมและทำให้เนื้อผ้านุ่มลื่น แต่เพื่อเป็นการประหยัดเวลาและทำให้การซักผ้าเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น หลายยี่ห้อจึงผลิตผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ นอกจากนี้ ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและลดพื้นที่ในการจัดเก็บอีกด้วย ในบทความนี้เราจึงได้รวบรวม 10 อันดับ ผงซักฟอก ผสมน้ำยาปรับผ้านุ่ม จากแบรนด์คุณภาพ ซึ่งมีทั้งแบบผงและแบบน้ำ พร้อมอธิบายสิ่งสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับผงซักฟอกและเทคนิคต่าง ๆ เอาไว้ในวิธีการเลือกผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่ม ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกซื้อผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ตรงใจ เหมาะกับการใช้งานยิ่งขึ้นค่ะ

จับ คู่ น้ำยาซักผ้า+ปรับผ้านุ่ม วิธีการเลือกผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่ม

จับ คู่ น้ำยาซักผ้า+ปรับผ้านุ่ม คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ผงซักฟอกเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับทุกคนและเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ ในการเลือกใช้ผงซักฟอกโดยเฉพาะผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มจำเป็นที่จะต้องพิจารณาถึงเรื่องคุณสมบัติการขจัดคราบสกปรกและวิธีการซักไปพร้อมกันค่ะ

① เลือกจากประเภทของผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่ม

เพื่อให้ได้ผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มตรงตามไลฟ์สไตล์การซักผ้าของเรามากที่สุด จึงควรเริ่มต้นศึกษากันตั้งแต่ชนิดของผลิตภัณฑ์ซักผ้าต่าง ๆ เพราะแม้จะเรียกรวมกันว่าผงซักฟอก แต่จริง ๆ ก็มีให้เลือกใช้ทั้งแบบผง น้ำ และเจลบอลเลยค่ะ

“ผงซักฟอกชนิดผง (Powder Detergents)” เหมาะสำหรับขจัดคราบโคลน คราบที่ฝังลึกบนเนื้อผ้า

โดยทั่วไป นอกจากผงซักฟอกจะมีสารลดแรงตึงผิวที่เป็นฟองลื่นมือแล้ว ยังมีส่วนประกอบหลักเป็นเกลือโซเดียมซัลโฟเนตของสารไฮโดรคาร์บอนที่มีบทบาทสำคัญในการทำปฏิกิริยากับน้ำและช่วยดักจับคราบมันและคราบสกปรกบนพื้นผิวทุกซอกทุกมุมได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เสื้อผ้าสะอาดหมดจดนั่นเอง ทำให้ผงซักฟอกเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดหากต้องการขจัดคราบฝังแน่น แต่ถ้าต้องการความสะอาดล้ำลึกยิ่งขึ้น แนะนำให้เลือกผงซักฟอกที่มีสารฟอกขาว (Bleash) เข้าไปเพราะจะช่วยให้สิ่งสกปรกหลุดออกได้ง่ายขึ้น ช่วยลดความหมอง และลดความเหลืองบนเนื้อผ้าโดยเฉพาะผ้าขาวได้ดีทีเดียว ส่วนผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มนั้นก็จะมีคุณสมบัติทั้งทำความสะอาดและช่วยให้ผ้ามีกลิ่นหอมไปพร้อม ๆ กันค่ะ

“ผงซักฟอกชนิดน้ำ (Liquid Detergents) ” เหมาะสำหรับขจัดคราบไขมัน คราบอาหาร

หากใครที่เคยเจอกับปัญหาผงซักฟอกละลายไม่หมดแล้วไปกองรวมกันใต้น้ำหรือเหลือเกล็ดผงซักฟอกตกค้างบนผ้า เราขอแนะนำให้เลือกใช้ผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มชนิดน้ำหรือน้ำยาซักผ้าแทนจะดีที่สุด เพราะน้ำยาซักผ้าส่วนใหญ่มักจะมีความเข้มข้นมากกว่าชนิดผง สามารถละลายน้ำได้ทันทีและกระจายตัวได้ทั่วถึงโดยไม่ทิ้งคราบบนเสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังเหมาะใช้กับเครื่องซักผ้าฝาหน้าหรือเครื่องซักผ้าที่มีฟังก์ชันประหยัดน้ำอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ยังมีน้ำยาซักผ้าสูตรอื่น ๆ ที่มีการลดความเข้มข้นลงหรือปรับค่า pH ให้เป็นกลางมากที่สุด เพื่อรองรับการซักผ้าที่มีเส้นใยบอบบาง ให้เราได้เลือกตามเนื้อผ้าและความเหมาะสมด้วยเช่นกันค่ะ

“ผงซักฟอกชนิดเจลบอล (Gelball)” ใช้งานสะดวก ไม่ต้องตวง

ตอบโจทย์ความสะดวกสบายยิ่งกว่าด้วยเจลบอล (Gel Ball) ซึ่งเป็นผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มในรูปแบบก้อนละลายน้ำง่าย เพียงแค่โยนเจลบอลเข้าไปในเครื่องซักผ้าก็ถือว่าเสร็จสิ้นกระบวนการ จึงช่วยลดขั้นตอนในการซักผ้าได้เป็นอย่างดี ทั้งยังไม่ต้องเสียเวลาในการตวงวัดผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มให้หกเลอะเทอะอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม เนื่องจากลักษณะของเจลบอลที่มีสีสันสวยงามคล้ายกับลูกอม ทำให้คุณพ่อบ้านแม่บ้านจำเป็นต้องเก็บรักษาอย่างระมัดระวังให้พ้นมือเด็กเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กหยิบมาเล่นหรือเผลอกลืนผลิตภัณฑ์ค่ะ

② เลือกผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มตามผ้าสีหรือผ้าขาว

โดยปกติเราจะแยกซักระหว่างผ้าสีและผ้าขาวอยู่แล้วเพื่อป้องกันสีตก จึงมีบางยี่ห้อที่ผลิตผงซักฟอกสำหรับผ้าแต่ละประเภทออกมา โดยผงซักฟอกสำหรับผ้าขาวก็อาจจะมีส่วนผสมของสารเรืองแสง (OBAs) ในปริมาณมาก เพื่อให้ผ้าขาวดูเปล่งประกายสว่างสดใสมากขึ้นและช่วยป้องกันผ้าหมอง แต่ถ้าหากนำไปใช้กับผ้าสีก็จะทำให้เกิดปัญหาสีซีด สีตก หรือเป็นด่างได้ ส่วนผงซักฟอกที่ใช้สำหรับซักผ้าสีจะเน้นที่การถนอมใยผ้าเพื่อให้สีของเสื้อติดทนนานขึ้นและไม่ซีดง่ายนั่นเอง แต่หากต้องการลดความยุ่งยากในการแยกซักผ้าและความสิ้นเปลือง ก็ยังมีผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มที่สามารถใช้ได้ทั้งผ้าสีและผ้าขาวมาให้เราเลือกใช้ด้วยค่ะ

③ เลือกผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มให้ตรงกับวิธีการซัก

ไม่เหมาะสมกับวิธีการซักก็เป็นได้

  • ผงซักฟอกชนิดซักมือ จะมีสารเพิ่มฟองมากกว่าผงซักฟอกที่ใช้กับเครื่องซักผ้า เมื่อเกิดการขยี้ก็จะเกิดฟองได้ดี แต่ไม่ควรนำไปใช้กับเครื่องซักผ้าเพราะอาจทำให้เกิดปัญหาฟองล้นถัง และมักจะเป็นสูตรที่มีความอ่อนโยนที่สุดเพื่อจะได้ถนอมมือของคนซัก
  • ผงซักฟอกชนิดซักเครื่อง สำหรับการซักผ้าด้วยเครื่องฝาหน้าและเครื่องฝาบนนั้น ไม่ควรนำผงซักฟอกไปใช้ร่วมกันค่ะ ซึ่งผงซักฟอกสำหรับเครื่องฝาบนจะมีปริมาณฟองที่มากกว่าเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า แต่ในขณะเดียวกันผงซักฟอกชนิดซักเครื่องก็จะมีฤทธิ์กัดกร่อนมากกว่าชนิดซักมือด้วย

เมื่อทราบข้อควรระวังตามที่ได้กล่าวมาแล้ว ดังนั้นการเลือกซื้อผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มก็ต้องพิจารณาถึงการนำไปใช้งานด้วยเพื่อไม่ให้ใช้งานผิดประเภทจนเกิดความเสียหายต่อเครื่องซักผ้าหรือทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวของผู้ใช้งาน

④ เลือกสูตรผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มให้เหมาะสม

อีกหนึ่งส่วนที่สำคัญก็คือ การสังเกตส่วนผสมเพิ่มเติมที่ผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่ม เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการซัก เพราะไม่เพียงแค่ความสะอาดหอมนุ่มลื่นของเนื้อผ้าเท่านั้น แต่ความปลอดภัยของผู้ใช้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันด้วยค่ะ

เลือกใช้ผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรอ่อนโยนสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย

ผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มโดยทั่วไปจะออกแบบมาให้รองรับการซักเสื้อผ้าเด็กได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ ส่วนประกอบทางเคมีบางชนิดแม้ไม่เป็นอันตราย แต่อาจก่อให้เกิดความระคายเคือง หรือทำให้ผ้าแห้งหยาบกร้านได้ จึงควรเลือกผงซักฟอกที่มี “ส่วนผสมจากธรรมชาติ” เป็นส่วนผสม เช่น สารสกัดจากพืช เอนไซม์ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีป้ายกำกับไว้ว่า “Hypoallergenic” อย่างไรก็ตาม แม้จะระบุว่าใช้แล้วไม่แพ้ แต่ก็เป็นเพียงผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ในกลุ่มคนส่วนใหญ่เท่านั้น เพราะสำหรับบางคนก็อาจแพ้สารเคมีบางชนิดอยู่ดี ดังนั้น หากใช้ผลิตภัณฑ์แล้วเกิดความระคายเคือง ก็ควรหยุดใช้ทันทีค่ะ

เลือกสูตรลดกลิ่นอับหากต้องตากผ้าในที่ร่มหรือซักผ้าตอนกลางคืน

ปัญหาหนึ่งของผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโดหรือหอพัก รวมไปถึงคนที่ไม่มีเวลาซักผ้าในช่วงกลางวัน ตลอดจนผู้ที่ซักผ้าในวันฝนตกและต้องตากผ้าในที่ร่ม มักพบว่าเสื้อผ้าที่ตากตอนกลางคืนมักมีกลิ่นอับ ไม่หอมสดชื่นอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งอาจเป็นเพราะใช้ผงซักฟอกที่ไม่มีส่วนผสมสำหรับช่วยลดกลิ่นอับในเนื้อผ้า จึงควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรที่เลือกมีระบุเอาไว้ว่าช่วยลดกลิ่นอับด้วย หรือทางที่ดีที่สุดก็คือเลือกผงซักฟอกสูตรสำหรับตากผ้าในที่ร่มและตากผ้าตอนกลางคืนไปเลยค่ะ

⑤ เลือกกลิ่นผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ชอบ

โดยทั่วไปผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มจะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้หรือกลิ่นหอมสดชื่นของธรรมชาติที่ใช้ได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่บางกลิ่นก็อาจทำให้หลายคนยังนึกภาพไม่ออก ตามร้านค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่จึงมีกลิ่นตัวอย่างให้เราทดลองดมกลิ่นจริงของผลิตภัณฑ์อยู่ด้วย ส่วนใครที่เน้นเรื่องความหอมติดทนนานให้เลือกผงซักฟอกผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ใช้แคปซูลน้ำหอมมาช่วยคงกลิ่นให้อยู่ได้นานขึ้น โดยสังเกตได้จากฉลากผลิตภัณฑ์ซึ่งจะระบุไว้ว่า “กลิ่นหอมยาวนาน” หรือ “หอมยาวนานต่อเนื่อง” ค่ะ จับ คู่ น้ำยาซักผ้า+ปรับผ้านุ่ม

บทความที่เกี่ยวข้อง